04.00 น. คณะผู้เดินทางพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง อาคาร 1 ผู้โดยสารขาออก ช้ัน 3 ประตู 1 เคาน์เตอร์สายการ
บินแอร์เอเชีย Thai Air Asia(FD) โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน
06.25 น. หินฟ้าสู่นครหลวง เวียงจันทน์ ประเทศลาว โดย สายการบิน Thai Air Asia เที่ยวบินที่ FD1042
07.35 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติวัตไต เวียงจันทน์ ประเทศลาว นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง รับกระเป๋าสัมภาระ หลังจากนั้นออกเดินทางท่องเที่ยวตามรายการ (เวลาท้องถิ่นที่ลาวเท่ากับประเทศไทย) ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ร้านอาหาร (1)
จากนั้นนำทุกท่านสู่ นครหลวงเวียงจันทน์ ชมความสวยงามของ พระธาตุหลวงเวียงจันทน์ องค์พระธาตุมีความสูง 45 เมตร สร้างเพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนหัวเหน่า 27 พระองค์ ซึ่งได้อัญเชิญมาจากเมืองราชคฤห์ ประเทศอินเดีย สมเด็จพระไชยเชษฐาธิราชทรงบูรณะขึ้นใหม่ภายหลังจากถูกพวกจีนฮ่อขุดหาสิ่งของมีค่ารื้อส่วนยอดพระธาตุลงมาถึงชั้นบัลลังก์ ตามตำนานกล่าวว่าพระธาตุหลวงมีประวัติการก่อสร้างนับพันปีเช่นเดียวกัน พระธาตุพนม ในประเทศไทย นับเป็นศูนย์รวมใจของประชาชนชาวลาวทั่วประเทศ และปรากฏความเกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์ของดินแดนทางฝั่งขวาแม่น้ำโขงอย่างแยกไม่ออกต่อด้วยเก็บภาพที่ระลึกหน้าประตูชัย สร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2512 เป็นอนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงประชาชนชาวลาวผู้เสียสละชีวิตในสงครามก่อนหน้าการปฏิวัติของพรรคอมมิวนิสต์ลักษณะสถาปัตยกรรมได้รับอิทธิพลของประตูชัยในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แต่ลักษณะสถาปัตยกรรมก็ยังมีเอกลักษณ์ของลาวปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปศิลปะลาว ภาพเรื่องราวมหากาพย์รามายณะ แบบปูนปั้นใต้ซุ้มประตูโค้งของประตูชัย ขึ้นบันไดไปชมทิวทัศน์ของนครเวียงจันทน์
จากนั้นนำท่านชม ประตูชัย ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชัยชนะและอธิปไตยของลาว ชม อนุสาวรีย์ของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช (ในอดีตเรียกว่า "อานุสาวะลี") เป็นอนุสรณ์สถานตั้งอยู่ท้ายสุดทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของถนนล้านช้าง ใจกลางนครเวียงจันทน์ ประเทศลาว ก่อสร้างในระหว่างปี พ.ศ. 2500 ถึงปี พ.ศ. 2511[1] เพื่อเป็นการสดุดีวีรชนผู้ร่วมรบเพื่อประกาศเอกราชจากประเทศฝรั่งเศส ปะตูไซถูกตกแต่งด้วยศิลปะแบบล้านช้าง นำสัตว์ในตำนานตามความเชื่อของศาสนาพุทธ เช่น กินรี และพญานาค เป็นต้น และเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู มาตกแต่ง บริเวณโดยรอบมีลานจัดการแสดงน้ำพุประกอบดนตรีและสวนปะตูชัย
นำท่านเดินทางสู่ วัดสีเมือง หรือวัดศรีเมือง เวียงจัน เป็นพระอารามหลวงของนะคอนหลวงเวียงจัน ที่มีทั้งเกียรติและศักดิ์สิทธื์ ถือเป็น 1 ใน ศรี 5 ประกอบด้วย ศรีเมือง ศรีพูล ศรีฐาน สีบัวบาน ศรีหอม ในสมัยโบราณ การทำพิธีสำคัญของกษัตริย์โบราณ ไม่ว่าจะเป็นราชพิธีสำคัญใดๆเช่น การราชาภิเษกขึ้นครองราชย์ จะต้องนำน้ำพุทธมนต์จาก วัด 5 ศรี ทั้งหมดมาประกอบพิธีพุทธาภิเษก
วัดสีเมืองแห่งนี้นอกจากจะเป็นศาสนสถานในทางบวรพระพุทธศาสนาแล้ว ยังเป็นสถานที่ตั้งเสาหลักเมืองของนครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งจากตำนานที่ได้รับฟังจากชาวลาวในพื้นที่ทราบว่า การตั้งเสาหลักเมืองในอดีตจะต้องหาคนมาสังเวย คล้ายลักษณะปู่โสมเฝ้าทรัพย์ในอดีตของไทย ที่ต้องฝังคนทั้งเป็นหรือฆ่าคนแล้วฝังไว้ในสถานที่นั้น ๆ ทั้งนี้ด้วยความเชื่อที่ว่าเพื่อให้วิญญาณได้กลายร่างเป็นผู้ปกปักรักษาสถานที่ หรือสมบัติชิ้นนั้น ๆ ตลอดไป ซึ่งในกรณีของลาว จะเป็นการหาคนโดยสมัครใจหากไม่มีผู้ใด เจ้าอาวาสของวัดที่ถูกเลือกก็จะต้องถูกฝังอยู่ใต้หลุมของเสาหลักเมือง ซึ่งปรากฏว่าเสาหลักเมืองที่กำลังดำเนินการสร้างขึ้นที่บริเวณวัดสีเมืองแห่งนี้ กลับมีสตรีที่กำลังตั้งท้อง 3 เดือน ยอมกระโดดลงไปในหลุมเพื่อให้ตัวเองฝังอยู่ภายใต้เสาหลักเมืองนี้ โดยทราบภายหลังว่าสามีของสตรีคนดังกล่าวเป็นทหารที่เพิ่งเสียชีวิตจากภัยสงคราม ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นตำนานที่มาของเสาหลักเมืองที่วัดสีเมืองแห่งนี้
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (2)
จากนั้นนำทุกท่านเดินทางสู่ เมืองเฟือง โดยรถ(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.)เป็นอีกจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่มาแรง เมืองที่มีธรรมชาติงดงามบริสุทธิ์ เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ทางด้านธรรมชาติแบบท้องถิ่น และ ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอยู่ตลอดทั้งนักท่องเที่ยวต่างประเทศ รวมถึงคนลาวด้วย เมืองเฟืองยังเป็นเมืองที่ผู้คนใช้วิถีชีวิตเกษตรกรรม ทำไร่ทำนา สวนยางพารา และการประมงพื้นบ้าน มีสายน้ำซองไหลผ่าน และมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่เสมือนสายเลือดหล่อเลี้ยงชีวิตของชาวเมืองซึ่งมีทั้งกลุ่มชาติพันธุ์ ชาวม้ง และชาวลาวสูงส่วนธรรมชาติที่โดดเด่นก็เป็นเทือกเขารายล้อม โดยมีภูเขาใหญ่น้อยกระจัดกระจายเคียงไปกับพื้นที่เกษตรกรรมเป็นทัศนียภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจ การท่องเที่ยวเมืองเฟือง จึงเป็นจุดหมายที่เหมาะสำหรับผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยวแนววิถีชีวิต ธรรมชาติ และการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
จากนั้นนำท่านชมวัดสินไชยาราม เป็นวัดที่มีคนเลี่ยมใสศรัทธามากในเมืองเฟือง เป็นวัดที่มีการสร้างวัดไปพร้อมกับการดูแลอนุรักษ์ป่าไม้ ฟื้นฟูสภาพป่าไม้ เป็นพุทธอุทยาน เป็นสถานที่เรียนรู้พุทธศาสนาและปฏิบัติธรรมควบคู่กับการอนุรักษ์ทรัพยากรป่า ด้านหลังวัดเป็นแนวเขาสวยงาม **การแต่งกาย ผู้หญิงต้องนุ่งผ้าซิ่นเท่านั้น (วัดมีให้เช่า ค่าเช่าแล้วแต่จะบริจาคท่านสามรถหยอดเงินใส่กล่องได้เลย) ถ้าเป็นผู้หญิงผมยาวต้องรวบผมด้วย ส่วนผู้ชายต้องสวมกางเกงขายาวเท่านั้น และถ้ามีผ้าเบี่ยง(ผ้าสไบ)ด้วยก็จะดีมาก
จากนั้นนำทุกท่านเดินทางสู่ แม่น้ำลีก เพื่อพาเข้าที่พักแพริมน้ำลีก มาเมืองเฟืองต้องลองมานอนเรือนแพริมน้ำ สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติและได้มาเรียนรู้วิถีชีวิตของชุมชน เรือแพธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ น้ำใสไหลเย็น มีกิจกรรมตักบาตรพระสงฆ์ริมน้ำช่วงเช้าอีกด้วย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ หน้าแพที่พัก เมนู!! หมูกระทะ (3)
อิสระให้ท่านพักผ่อนชมธรรมชาติตามอัธยาศัย
พักที่ แพไผ่เงินไผ่คำ , แพริเวอร์ไซด์ หรือเทียบเท่า
*** สิ่งสำคัญที่ควรทราบสำหรับการเข้าพักที่เมืองเฟือง ***
ห้องน้ำจะไม่ได้อยู่ในแพ (เนื่องจากเป็นข้อกำหนดของทางเมืองเฟืองที่จะไม่สามารถชำระสิ่งปฎิกูลลงในแม่น้ำได้
ในส่วนของห้องพักส่วนใหญ่จะเป็นเตียงเดี่ยว (พักห้องละ 2 ท่าน)กรณีถ้าไปเป็นคี่ โปรดสอบถามหรือจองห้องสำหรับพักเดี่ยว
เช้าตรู่ ตื่นเช้าไปร่วมทำบุญ-ตักบาตรริมน้ำ โดยพระสงฆ์จะพายเรือมาบิณฑบาตตามที่พัก ทุกท่านสามารถใส่บาตรตรงที่พักได้เลย ถือเป็นภาพยามเช้าที่มีชีวิตชีวาของเมืองเฟืองโดยสะท้อนถึงวิถีชีวิตของสังคมอันสงบสุขและความเลื่อมใสศรัทธาที่มีต่อพุทธศาสนาที่หยั่งรากลึกลงในวัฒนธรรมของชาวล้านช้าง (ไม่รวมค่าใส่บาตรบนแพ)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ หน้าแพที่พักพัก (4)
หลังจากนั้นนำทุกท่านเดินทางสู่ เมืองวังเวียง โดยรถ(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.)เมืองแห่งขุนเขา ดินแดนสุขาวดี มีธรรมชาติงดงามด้วยภูเขาหินปูนสูงชันตั้งเด่นตระหง่าน และสายน้ำเมืองตากอากาศของทหารอเมริกาในสมัยสงครามเวียดนามเมืองที่ได้ชื่อว่า “กุ้ยหลินเมืองลาว”
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (5)
จากนั้นนำท่านเดินทางไปยัง บลูลากูน (Blue Lagoon) หรือที่เรียกกันว่าสระน้ำจืดสีมรกต เป็นสระที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ น้ำในสระเป็นสีฟ้าหรือเขียวมรกตเพราะน้ำที่ผุดขึ้นมาจากบาดาลมีแหล่งกำเนิดมาจากภูเขาหินปูนที่โอบล้อมวังเวียงเอาไว้ ซึ่งในหินปูมีแคลเซียมคาร์บอเนตซึ่งทำให้น้ำตกตะกอน จึงเหลือเพียงความใสบนผิวน้ำเท่านั้น ให้ทุกท่านชม ถ้ำปูคำ ตั้งอยู่ในเมืองวังเวียง ด้านหน้าถ้ำเป็นบริเวณลำน้ำสำหรับให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อนหย่อนใจ มีร่มสำหรับนั่งพักผ่อน รวมถึงมีพื้นที่ลานกว้างสำหรับชาวต่างชาติมานอนอาบแดด
นำท่านชม ถ้ำนางฟ้า (ANGEL CAVE) หลังจากข้าม "สะพานฟ้า" ถ้ำแห่งนี้ถือเป็นถ้ำขนาดใหญ่ที่สว่างไสวด้วยสปอตไลต์เจลซึ่งเต็มไปด้วย หินปูนขนาดใหญ่และมีหินย้อยตระการตาในรูปแบบต่างๆ ที่ไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นในพระพุทธเจ้า ห้องครัว หรือสัตว์ และอื่นๆ เดินไปตามทางเดินในตรอกแคบๆ และเพลิดเพลินไปกับความน่าดึงดูดใจของหินงอกหินย้อยที่ซ่อนอยู่ในถ้ำแห่งนี้
จากนั้นนำทุกท่านได้พักผ่อน ล่องเรือชมวิวแม่น้ำซองกิจกรรมล่องเรือหางยาว ที่แม่น้ำซอง (Nam Song River) (รวมค่าล่องเรือหางยาวแล้ว) (กิจกรรมล่องเรือหางยาว 1 ลำนั่งได้2ท่าน ) แม่น้ำซองเป็นแม่น้ำสายหลักของเมืองวังเวียงหรือเรียกได้ว่าเป็นหัวใจของเมืองวังเวียง ตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขาหินปูนที่เรียกว่า “คาสต์” ลักษณะของหินปูนที่ถูกน้ำแซะละลายจนหลงเหลือเป็นภูเขาที่พื้นผิวเป็นหลุมเป็นบ่อ มีถ้ำและทางน้ำใต้ดิน มีความยาวประมาณ 36 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมทำกิจกรรมทางน้ำหลายอย่าง เช่น การนั่งเรือหางยาวล่องแม่น้ำซองชมวิวทิวทัศน์ธรรมชาติ,กิจกรรมพายเรือคายัค, หรือ(อิสระเล่นน้ำตามอัธยาศัย)
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร (6)
พักที่โรงแรม โรงแรมทวีสุข,โรงแรมซิลเวอร์ นากา หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (7)
จากนั้นได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ สถานีรถไฟ เมืองวังเวียง
11.47 น. vออกเดินทางสู่ เมืองหลวงพระบาง โดยรถไฟลาว-จีน EMU ขบวนที่ C92 **รอบรถไฟหรือเวลาการเดินทางอาจมีการเปลี่ยนแปลง**
12.39 น. เดินทางถึง สถานีรถไฟ เมืองหลวงพระบาง เมืองหลวงพระบาง เมืองมรดกโลก ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2538 ด้วยเหตุผลก็คือเมืองหลวง มีวัดวาอารามเก่าแก่มากมาย มีบ้านเรือนเป็นเอกลักษณ์ ตัวเมืองตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงและแม่น้ำคาน ซึ่งไหลบรรจบกันท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม และชาวเมืองหลวงพระบางมีบุคลิกที่ยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นมิตร มีขนบธรรมเนียมประเพณีที่งดงาม
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (8)
นำทุกท่านเดินทางสู่ น้ำตกตาดกวางสี น้ำตกที่สวยที่สุดในเขตหลวงพระบาง ห่างจากหลวงพระบาง 30 กิโลเมตรไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ หนึ่งในน้ำตกที่สวยที่สุดในเขตหลวงพระบาง ชมความงามของน้ำตกที่ตกลดหลั่นเป็นชั้นๆ อย่างสวยงามแต่ละชั้นเกิดจากการผสมของหินปูนสูงราว 70 เมตร มี 2 ชั้น สภาพป่าร่มรื่นและบริเวณโดยรอบน้ำตกนั้นก็ยังป่าอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากตัวน้ำตกตั้งอยู่ในเขตป่าสงวน มีสะพานและเส้นทางเดินชมรอบๆ น้ำตก (สามารถเล่นน้ำตกได้)
จากนั้นนำท่าน สักการะพระธาตุพูสี ที่ประดิษฐานอยู่ด้านบนซึ่งเป็นจุดสูงสุดของยอดพูสีมีสีเหลืองทองอร่ามเรืองรองเมื่อถูกแสงแดดตกกระทบ เพื่อเป็นสิริมงคลต่อผู้กราบไหว้ และยังเป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวหลวงพระบางให้ความเคารพมาก
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร (9)
นำทุกท่าน อิสระช้อปปิ้ง ที่และชมบรรยากาศถนนคนเดินเมืองหลวงพระบางยามราตรีได้ ที่ ตลาดมืด Night Market อิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
ได้เวลาอันสมควรนำทุกท่านเข้าสู่ที่พัก
พักที่ โรงแรมอ่างทอง หรือเทียบเท่า (พักที่หลวงพระบาง)
เช้าตรู่ ตื่นเช้าไปร่วมทำบุญ-ตักบาตรกับชาวหลวงพระบางทุกเช้าชาวหลวงพระบาง ทุกบ้านจะพากันออกมานั่งรอตัก บาตร พระสงฆ์ที่เรียงแถวเดินมาตามถนนเป็นร้อยๆรูปซึ่งเป็นภาพยามเช้าที่มีชีวิตชีวาของหลวงพระบางโดยสะท้อนถึงวิถีชีวิตของสังคมอันสงบสุขและความเลื่อมใสศรัทธาที่มีต่อพุทธศาสนาที่หยั่งรากลึกลงในวัฒนธรรมของชาวล้านช้าง (รวมค่าใส่บาตรข้าวเหนียวท่านละ 1 ชุด และชุดพื้นเมือง(ผ้าสไบคาดอก)
อิสระทุกท่านเดินเล่น ตลาดเช้า โดยของที่ขายจะเป็นอาหารสด อาหารแห้ง อาหารเช้า หรือขนมต่างๆ สามารถซื้อเป็นของฝากได้เช่นกัน
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (10)
นำท่านเดินทางสู่ วัดวิชุนราช สร้างขึ้นโดยพระเจ้าวิชุนราชในราวปี พ.ศ. 2057 วัดนี้ผ่านการเผาทำลายโดยจีนฮ่อที่เข้ามาปล้นเมืองในอดีตและได้รับการบูรณะ ใหม่ในปี พ.ศ. 2457 โดยนายช่างชาวฝรั่งเศสผู้ที่ได้ทำการบูรณะนครวัด จุดเด่นของวัดแห่งนี้ คือ เป็นที่ประดิษฐานพระธาตุหมากโม พระธาตุที่มีลักษณะพิเศษคล้ายผลแตงโมคว่ำ คล้ายสถูปแบบฟองน้ำที่สาญจี ประเทศ อินเดีย พระพุทธรูปแบบลังกาหรือสุโขทัย ซึ่งพระธาตุหมากโมเคยถูกปฏิสังขรณ์มาแล้ว 2 ครั้ง ในปีพ.ศ.2402 รัชสมัยเจ้ามหาชีวิตสักรินทร์ (คำสุก) และบูรณะอีกครั้งในปีพ.ศ. 2457 รัชสมัยเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ซึ่งในการบูรณะครั้งนี้ ได้ค้นพบโบราณสถานศิลปวัตถุมากมาย เช่น เจดีย์ทองคำ พระพุทธรูปหล่อสำริด พระพุทธรูปทองคำ พระพุทธรูปเงิน และโดยเฉพาะพระพุทธรูปที่แกะสลักจากแก้ว เช่น เดียวกับพระแก้วมรกต ปัจจุบันโบราณวัตถุเหล่านี้ได้เก็บรักษาไว้ในพระราชวังหลวงพระบาง ในปัจจุบันได้เปิดส่วนหนึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อเก็บรักษาโบราณวัตถุสำคัญๆ รวมไปถึง ซุ้มประตูโขง ในพระอุโบสถที่เป็นซุ้มประตูโขงที่เก่าแก่ที่สุดของเมือง ต่อด้วยเข้าชมหอพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ ชม พระราชวังหลวง ขึ้นในปีพ.ศ. 2477 เพื่อเป็นที่ประทับของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส สร้างฐานซ้อนกันหลายชั้น หลังคามุงกระเบื้อง นับเป็นการผสมผสานความงดงามของตัวอาคารแบบฝรั่งเศสกับศิลปะแบบล้านช้างในตัว พระราชวังได้อย่างลงตัว เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ประทับอยู่ที่พระราชวังหลวงพระบางจวบจนสิ้นพระชนม์
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดเชียงทอง วัดเก่าแก่ที่สวยงามด้วยศิลปะแบบล้านช้าง “หลังคาปีกนก” 3 ชั้น สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช พ.ศ. 2102-2103 ภายในอุโบสถมีงานจิตรกรรมฝาผนังเรื่องราวในพระชาดกและนิทานพื้นบ้านสวยงามนอกจากนั้นภายในเขตวัดยังมีพอพระม่านซึ่งเป็นที่ประดิษฐาน “พระม่าน” 1 ใน 3 พระพุทธรูปคู่เมืองของหลวงพระบางหอพระพุทธไสยาสน์ที่มีงานประดับกระจกสีเป็นลายเรื่องราวพื้นบ้านของชาวลาว และยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางไสยาสน์อายุกว่า 400 ปี พระธาตุศรีสว่างวงศ์ซึ่งเป็นสถานที่เก็บพระอัฐิของเจ้าเมืองในอดีต และโรงราชรถพระโกศหรือ “โรงเมี้ยนโกศ” โรงราชรถเจ้าเมืองโบราณ ภายในมีราชรถไม้แกะสลักปิดทองคำเปลว และภาพแกะสลักลงรักปิดทองตอนสำคัญต่างๆ ของมหากาพย์รามเกียรติ์ วัดแห่งนี้ยังได้รับการดูแลจากเจ้ามหาชีวิตสว่างวงศ์ ที่ได้รับการกล่าวขานและได้รับการยกย่องจากนักโบราณคดีว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่มีโดดเด่นยิ่งนักความงดงามและทรงคุณค่าเป็นดั่งอัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมของลาว
สมควรแก่เวลานัดหมาย พาทุกท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติหลวงพระบาง
14.35 น. เหินฟ้าสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน แอร์เอเชีย Thai Air Asia(FD) เที่ยวบินที่ FD1031
16.05 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานดอนเมือง โดยสวัสดิภาพ....พร้อมความประทับใจ........
วันเดินทางไป - กลับ | ผู้ใหญ่ท่านละ | พักเดี่ยวเพิ่มเงิน | ราคาเด็กท่านละ | |
---|---|---|---|---|
22 พ.ค. 67 - 25 พ.ค. 67 | 20,883 บาท | 4,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
03 มิ.ย. 67 - 06 มิ.ย. 67 | 19,883 บาท | 4,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
24 มิ.ย. 67 - 27 มิ.ย. 67 | 18,883 บาท | 4,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
07 ก.ค. 67 - 10 ก.ค. 67 | 19,883 บาท | 4,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
28 ก.ค. 67 - 31 ก.ค. 67 | 20,883 บาท | 4,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
11 ส.ค. 67 - 14 ส.ค. 67 | 20,883 บาท | 4,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
26 ส.ค. 67 - 29 ส.ค. 67 | 18,883 บาท | 4,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
08 ก.ย. 67 - 11 ก.ย. 67 | 19,883 บาท | 4,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
25 ก.ย. 67 - 28 ก.ย. 67 | 19,883 บาท | 4,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
59/298 ซอย พุทธมณฑลสาย 2 ซอย 24 แขวง ศาลาธรรมสพน์ เขต ทวีวัฒนา กรุงเทพฯ 10170