11.00 น. เจ้าหน้าที่และหัวหน้าทัวร์รอรับคณะ บริเวณจุดนัดพบประตู 10 อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 สนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมแจกเอกสารในการเดินทาง ก่อนนำท่านเช็คอินที่เคาร์เตอร์สายการบินฟินแอร์ (น้ำหนักกระเป๋าโหลดท่านละ 1 ใบ ไม่เกิน 23 กิโลกรัม และถือขึ้นเครื่องได้อีกท่านละ 1 ใบ ไม่เกิน 7 กิโลกรัม)
15.00 น. ออกเดินทางสู่สนามบินเฮลซิงกิ โดยสายการบินฟินแอร์ เที่ยวบินที่ AY142 (บริการอาหารและเครื่องดื่มระหว่างเที่ยวบิน)
22.30 น. ถึงสนามบินเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง พร้อมรับสัมภาระ และการตรวจของศุลกากร (เวลาที่ฟินแลนด์ช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง ขอแนะนำให้ทุกท่านปรับเวลาเป็นเวลาท้องถิ่นเพื่อความเข้าใจเวลานัดหมายที่ตรงกัน)
นำท่านเดินเข้าเช็คอินเข้าสู่โรงแรมที่พักซึ่งตั้งอยู่บริเวณใกล้กับสนามบิน เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าจากการเดินทาง
ค่ำ อิสระอาหารค่ำ เนื่องจากเป็นช่วงเวลาระหว่างเดินทาง
ที่พัก Scandic Helsinki Airport, ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า แบบกล่อง (เนื่องจากต้องออกเดินทางไปสนามบินแต่เช้า)
04:30 น. นำท่านออกเดินทางสู่สนามบินเฮลซิงกิ
05:00 น. ถึงสนามบินเฮลซิงกิ ทำการเช็คอินสายการบินฟินแอร์
07:20 น. ออกเดินทางสู่สนามบินเคฟลาวิก โดย สายการบินฟินแอร์ เที่ยวบินที่ AY991
09:15 น. ถึงสนามบินเคฟลาวิก สาธารณรัฐไอซ์แลนด์ ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง พร้อมรับสัมภาระและการตรวจของศุลกากร จากนั้นนำคณะขึ้นรถโค้ชที่รอรับ (เวลาที่ไอซ์แลนด์ช้ากว่าประเทศไทย 7 ชั่วโมง) จากนั้นนำท่านสู่เมืองฟอสสาทูน (ระยะทาง 133 กิโลเมตร เดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง)
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
หลังอาหารกลางวัน ให้ท่านได้สัมผัสประสบการณ์พิเศษด้วยการเดินในเส้นทางโทรลล์วอล์ค “Troll Walk” เรียนรู้ความเชื่อที่มีเอกลักษณ์อันน่าหลงใหลกับตำนานเอลฟ์และโทรลล์ของชาวนอร์ดิกโบราณที่ยังคงฝังรากลึกอยู่ในวัฒนธรรมและประเพณีของชาวไอซ์แลนด์ ให้ท่านได้เพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์อันงดงามของน้ําตกโทรลล์ และวงกลมภูเขาบอร์การ์ฟยอร์ดูร์
นำท่านชม บ่อน้ำพุร้อนเดลดาร์ตุงกูเวอร์ “Deildartunguhver Thermal Spring” ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 20 กิโลเมตร เป็นบ่อน้ำพุร้อนใหญ่ที่สุดในประเทศ และเป็นบ่อน้ำพุร้อนที่ไหลเร็วที่สุดในยุโรป อุณหภูมิน้ำสูงสุด 97 องศาเซลเซียส ในช่วงฤดูร้อนจะมีชาวบ้านมาตั้งร้านขายผัก ผลไม้ ด้วยเนื่องจากแถวๆ นี้มีเรือนเพาะชำซึ่งใช้ความร้อนจากบ่อน้ำพุแห่งนี้เพื่อให้ความอบอุ่นกับต้นไม้
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่หนึ่งในสถานที่ไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนไอซ์แลนด์ จุดที่ถูกถ่ายรูปมากที่สุดจนกลายเป็นหนึ่งในภาพสัญลักษณ์ของประเทศไอซ์แลนด์ ภูเขาเคีร์กจูเฟล “Kirkjufell” (ระยะทาง 139 กิโลเมตร เดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) ภูเขาที่มีลักษณะคล้ายกับเจดีย์รูปกรวยคว่ำ มีความสูงประมาณ 463 เมตร ใกล้ภูเขายังมีธารน้ำตกขนาดเล็กที่สวยงามมากอีกแห่งหนึ่งด้วย ไม่ว่าจะมาเที่ยวในช่วงไหนของปีที่แห่งนี้ก็มีความงดงามตลอด ให้ท่าน ชื่นชมกับบรรยากาศและถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
ถึงเวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ เมืองบอร์การ์เนส (ระยะทาง 106 กิโลเมตร เดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที)
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
ที่พัก B59 Hótel, Borganes ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นำท่านออกเดินทางสู่เส้นทางวงกลมทองคำที่ซึ่งผู้มาเยือนไอซ์แลนด์ต้องไม่พลาด เข้าชมเขตอุทยานแห่งชาติธิงเลลีร์ “Thingvellir National Park” (ระยะทาง 91 กิโลเมตร เดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที) อุทยานแห่งชาติแห่งแรกและเป็นพื้นที่ ที่ได้รับการยอมรับว่ามีธรรมชาติที่สวยงามแห่งหนึ่งของไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่ระหว่างรอยแยกของหุบเขากับทะเลสาบ และนับเป็นจุดกำเนิดทางประวัติศาสตร์และทางธรณีวิทยาที่น่าสนใจของโลกองค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมในปี ค.ศ.2004 นำท่านเดินชมจุดบริเวณที่เคยเป็นสภาและสถานที่คัดเลือกผู้นำแห่งแรกของชาวไอซ์แลนด์เมื่อปี ค.ศ. 930 ชมรอยแตกของโลกที่มีความลึกลงสู่ใต้ดินถึง 14 เมตร ที่เกิดจากแผ่นดินไหวเมื่อปี ค.ศ. 1784 และรอยแตกนี้ก็จะขยายออกไปอีกถึงปีละ 1 เซนติเมตร
จากนั้นนำท่านชมน้ำพุร้อนธรรมชาติ หรือ ไกเซอร์ “Geysir Geothermal” ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า “Geyser” ที่ใช้กันทั่วโลก ชมสโทรคูร์ “Strokkur” อันโด่งดังที่พ่นน้ำพุร้อนพวยพุ่งขึ้นสูงกว่า 180 ฟุต ทุกๆ 7-10 นาที และยังมีสระน้ำร้อนหรือน้ำพุร้อนที่น่าตื่นตาให้ชมอีกหลายแห่ง แหล่งน้ำพุร้อนแห่งนี้ก็ยังมีน้ำที่ร้อนมากเกินกว่าที่จะลงไปสัมผัสได้จึงมีการล้อมรั้วกั้นไว้และมีป้ายเตือนให้ทราบว่าน้ำในนี้มีอุณหภูมิสูงถึง 100°องศาเซลเซียส พลังงานความร้อนที่อยู่ใต้หินเปลือกโลก และถูกขับเคลื่อนออกมาเป็นน้ำพุร้อนนี้ ทางรัฐบาลได้แปลงความร้อนให้เป็นพลังงานไฟฟ้าส่งใช้ทั่วประเทศ
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
จากนั้นนำท่านสัมผัสประสบการณ์พิเศษยามบ่าย นำท่านนั่งรถกลับไปที่ น้ำตกกุลล์ฟอสส์ “Gullfoss” น้ำตกที่ตกลงไปยังหุบเขาโบราณทั้ง 2 ด้าน ที่มีความลึกกว่า 32 เมตร และมีความแรงสูงสุดในช่วงหน้าร้อน อยู่ที่ประมาณ 140 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในภาษาไอซ์แลนด์ Gullfoss หมายถึงน้ำตกทองคำ ซึ่งถือได้ว่าเป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงและงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่ง จนได้สมญานามว่าไนแองการ่าแห่งไอซ์แลนด์ และได้รับการรับรองให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ จากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งมีความสวยงามอลังการเป็นอย่างมาก
จากนั้นนำท่านชม ปล่องภูเขาไฟเคริด “Kerid Crater” ที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อประมาณ 3,000 ปีก่อน มีความลึกประมาณ 55 เมตรกว้าง 170 เมตร เป็นหนึ่งในสถานท่องเที่ยวที่มีคนถ่ายรูปมากที่สุดในภูมิประเทศปล่องภูเขาไฟเคริด Kerid Crater เป็นทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ ห่างจากเมือง Selfoss ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 30 กิโลเมตร สิ่งที่ทำให้ ปล่องภูเขาไฟเคริด Kerid Crater โดดเด่นคือสีสันที่สดใสและตัดกัน ผนังของปล่องภูเขาไฟแสดงเฉดสีแดง ส้ม และน้ำตาล ซึ่งเกิดจากการมีธาตุเหล็กออกซิไดซ์ในหินภูเขาไฟ สีสันที่สดใสเหล่านี้ประกอบกับน้ำสีเขียวอมฟ้าที่เติมปากปล่องภูเขาไฟ ทำให้เกิดภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจ สีสันที่ตัดกันและทะเลสาบอันเงียบสงบภายในปากปล่องภูเขาไฟ ให้ท่านได้ชื่นชมและเก็บภาพที่น่าทึ่ง ดื่มด่ำกับสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ แอ่งภูเขาไฟแห่งนี้
จากนั้นนำท่านเดินทางต่อไปยังดีร์โฮเลย์ เพื่อเข้าเช็คอินโรงแรมที่พัก
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก Hótel Dyrhólaey ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หุบเขาฟยาดราเกลยูเฟอร์ แคนยอน “Fjaðrárgljúfur” (ระยะทาง 80 กิโลเมตร เดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) อีกจุดท่องเที่ยวสวยๆ ที่น่าตื่นตาตื่นใจ หนึ่งในสถานที่ประกอบฉากมิวสิควีดีโอเพลง I'll Show You ของ จัสติน บีเวอร์ “Justin Bieber” จนเป็นที่รู้จักและเป็นที่นิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้ต้องแวะเข้ามาเช็คอินเมื่อมาเยือนไอซ์แลนด์
ทิวทัศน์ของหุบเขาฟยาดราเกลยูเฟอร์นั้นมีความคดเคี้ยวสวยงาม อันเกิดจากการกัดเซาะของธารน้ำแข็งเป็นว่านับพันปี จนเกิดพื้นที่เป็นร่องเขาและมีแนวชั้นหินเป็นแนวผาทอดยาวอย่างสลับซับซ้อน ซึ่งมีความลึกประมาณ 100 เมตร และมีความยาวของช่วงแคบถึง 2 กิโลเมตร มีแม่น้ำฟยาดราไหลทอดตัวยาวอยู่ตรงก้นหุบเขา การเยี่ยมชมหุบเขาแห่งนี้ในแต่ละช่วงเวลาจะให้บรรยากาศที่แตกต่างกัน ในช่วงฤดูร้อนบริเวณโขดหินนั้นจะเต็มไปด้วยต้นมอสส์และดอกไม้ ปกคลุมเขียวชอุ่มตัดกับสีฟ้าของแม่น้ำที่อยู่ลึกลงไปในหุบเขา สร้างบรรยากาศอันสุดมหัศจรรย์ที่สวยงามราวกับภาพวาด ส่วนในช่วงฤดูหนาวพื้นที่จะถูกปกคลุมไปด้วยชั้นหิมะที่ขาวสะอาดสลับกับแนวโขดหินของร่องเขาดูแปลกตา
ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่เขตอุทยานแห่งชาติสกาฟตาเฟล (ระยะทาง 101 กิโลเมตร เดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที) สถานที่ยอดนิยมในหมู่นักเดินป่า ช่างภาพ และผู้ที่รักความงามตามธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ผ่ามชมทัศนียภาพที่สวยงามของประเทศไอซ์แลนด์ ซึ่งเต็มไปด้วยความแปลกของแนวภูเขาไฟ และชั้นหินลาวาที่แข็งตัวแบบที่ท่านไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ชมน้ำตกระหว่างเส้นทาง ที่เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งบนยอดเขา เป็นเส้นทางที่สวยงามมากอีกแห่งหนึ่งของประเทศไอซ์แลนด์
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เขตโจกุลซาลอน Jökulsárlón นำท่านเดินเข้าชม ถ้ำน้ำแข็งคริสตัล “Crystal Ice Cave” ถ้ำน้ำแข็งที่สวยงามตระการตาและมีชื่อที่สุดของไอซ์แลนด์ เกิดจากการแช่แข็งของธารน้ำแข็งสวีนาเฟลล์โจกุล “Svínafellsjökull Glacier” และเปิดให้เข้าชมได้เฉพาะในช่วงฤดูหนาวเท่านั้น และเนื่องจากสภาพอุณหภูมิที่มีการเปลี่ยนแปลง ตลอดเวลาทำให้รูปแบบของถ้ำน้ำแข็งค่อยๆมีการเปลี่ยนตลอดเวลา การเข้าชมทุกท่านจะต้องปฎิบัติตามกฎความปลอดภัย สวมใส่อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยที่ทางทีมงานเตรียมไว้ให้ ซึ่งมีหมวกกันน็อกและรองเท้าตะปูที่สวมรอบเท้าเพื่อให้ท่านสามารถเดินบนน้ำแข็งได้อย่างมั่นคง เมื่อทุกท่านพร้อมเราจะมุ่งหน้าเดินเข้าไปในถ้ำน้ำแข็งที่ประกอบด้วยหิมะสีขาวเป็นประกาย น้ำแข็งสีน้ำเงินเข้ม และลวดลายหยักเป็นวงของขี้เถ้าซึ่งทำให้ถ้ำน้ำแข็งแห่งนี้มีความสวยงามแปลกประหลาดไม่เหมือนกับสถานที่ใดในโลก ยามเมื่อมีแสงอาทิตย์ที่ส่งลงมาตกกระทบน้ำแข็งที่มีความใสดังแก้วคริสตัล ก่อให้เกิดถ้ำน้ำแข็งสีฟ้าครามสดใสสวยงามราวกับอัญมณีที่เมื่อได้เห็นแล้วจะต้องตกตะลึงกับความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่สร้างให้กับคนที่ไม่กลัวความหนาว อิสระให้ท่านได้มีเวลาเก็บภาพและเดินชื่นชมความสวยงามของถ้ำที่ไม่เหมือนกับสถานที่ใดในโลก (ในวันเดินทาง กรณีที่เข้าชมถ้ำน้ำแข็งที่ Crystal Ice Cave ไม่ได้ทางบริษัทขอสงวนสิทธิในการปรับโปรแกรมเปลี่ยนเป็นนำท่านเข้าชมที่ ถ้ำน้ำแข็งไกล้เคียงแทน)
จากนั้นนำท่านชม โจกุลซาลอน กราเซีย ลากูน “Jökulsárlón Glacier Lagoon” ทะเลสาบธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ เกิดขึ้นโดยธรรมชาติจากการละลายของน้ำในธารน้ำแข็งและขยายเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี อันเป็นผลกระทบของภาวะโลกร้อนทำให้เกิดการพังทลายของ ก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่จากธารน้ำแข็งและไหลลงมาเรื่อยๆ กระทั่งตกลงไปยังทะเลสาบ ละลายอย่างช้าๆ และถูกซัดโดยคลื่นออกไปสู่มหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ
ก่อนที่จะถูกคลื่นซัดกลับขึ้นไปบนชายหาดทรายดำที่ชื่อว่า เปรียดาร์แมร์คูร์ซานดูร์ “Breiðamerkursandur” ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับลากูนแห่งนี้ จนเป็นเหมือนเป็นประติมากรรมน้ำแข็งขนาดเล็กที่เปล่งประกายภายใต้แสงอาทิตย์ มองดูเหมือนเพชรที่ส่องประกาย จนทำให้ถูกเรียกอีกชื่อว่า ไดมอนด์บีช “Diamond Beach” มีเวลาให้ท่านเก็บภาพความประทับใจอย่างเต็มที่
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก Hótel Skaftafell ระดับ 3 ดาว+ หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชมและภาพคู่กับ ธารน้ำแข็งสวีนาเฟลล์สโจกุล “Svinafellsjokull” อีกหนึ่งในจุดยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวมักจะแวะเวียนมาถ่ายรูปคู่กับกลาเซีย ด้วยสีสันที่สวยงามด้วยน้ำแข็งสีฟ้าเข้ม หิมะสีขาวเป็นประกาย และเส้นเถ้าสีดำซึ่งหลงเหลือมาจากการปะทุเมื่อหลายศตวรรษก่อน ทำให้สวีนาเฟลล์สโจกุลไม่เพียงแต่ได้รับการชื่นชมจากชาวไอซ์แลนด์และผู้มาเยือนเท่านั้น ยังเข้าตาของผู้ผลิตละครซีรีย์เรื่องดัง Game of Thrones ทำให้ถูกใช้เป็นฉากที่ถ่ายทำ 'North of the Wall' ในซีซั่น 7 ระหว่างการต่อสู้สุดดราม่าในตอนสุดท้าย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองวิค “Vik” (ระยะทาง 168 กิโลเมตร เดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) ระหว่างทางหากหิมะปกคลุมไม่มากแวะให้ท่านได้ชมและถ่ายรูปกับ ทุ่งลาวาเอลธรอน “Eldhraun Lava Field” ที่นี่นอกจากจะเป็นทุ่งลาวามอสส์ที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์แล้ว ยังมีความสำคัญทั้งในแง่ธรณีวิทยา ที่เกิดจากการปะทุขนาดใหญ่ของภูเขาไฟ Skaftáreldar ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในภัยพิบัติที่รุนแรงที่สุดของไอซ์แลนด์ ลาวาร้อนๆ ที่ไหลลงสู่ด้านล่างหลอมละลายต้นไม้ต่างๆ จนเหลือแต่ซากทุ่งลาวาขนาดใหญ่ นานวันก็ถูกปกคลุมด้วยมอสส์สีเขียวแผ่ขยายเป็นทุ่งอันงดงาม กลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทุกสารทิศ
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
จากนั้นนำท่านชม เรย์นิสฟายาร่า หรือ หาดทรายดำ “Reynisfjara Black Sand Beach” ที่มีชื่อเสียงที่สุดของไอซ์แลนด์ และเป็นหนึ่งในหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ทรายสีดำที่ชายหาดแห่งนี้เป็นตะกอนเม็ดทรายสีดำ ที่เกิดจากการสึกกร่อนของหินลาวา และแนวหินบะซอลต์ ที่ถูกพัดพาไปสะสมตัวบริเวณชายหาด โดยเม็ดทรายนี้มีความหนาแน่นและทนทานต่อการแตกสลายผุพัง บริเวณนี้เป็นบริเวณที่คลื่นพัดแรง จะพัดเอาวัตถุที่มีความหนาแน่นน้อยกว่าออกไป วัตถุที่มีความหนาแน่นมากกว่าจะถูกพัดพาออกไปได้ช้าหรือยังคงสะสมรวมตัวกันอยู่ จนกลายเป็นชายหาดที่มีทรายสีดำ
ชมแหลมดีร์โฮเลย์ “Dyrhólaey” เดิมเรียกว่าเคปพอร์ตแลนด์ (Cape Portland) โดยชาวอังกฤษ ดีร์โฮเลย์เป็นแหลมที่ยื่นออกมาทางชายฝั่งตอนใต้ของไอซ์แลนด์ และตั้งอยู่ไม่ไกล จากย่านชุมชนวิค (Vik) ซึ่งเป็นดินแดนที่อยู่บริเวณใต้สุดของประเทศ ดีร์โฮเลย์เป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1978 แหลมดีร์โฮเลย์เรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า "เกาะเนินประตู (Door hill island)" คำว่าประตูมาจากลักษณะที่มีซุ้มลาวาโค้งขนาดมหึมายื่นรับอยู่ทางด้านหน้าของแหลม ซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเลและลมที่พัดผ่าน ตระหง่านอยู่กับหาดทรายสีดำ เมื่อทะเลสงบเรือขนาดใหญ่สามารถที่จะแล่นผ่านโค้งหินนี้ได้ เคยมีแม้กระทั่งนักบินผาดโผนที่บินผ่านโค้งหินนี้ด้วยเครื่องบินขนาดเล็กมาแล้ว
จากนั้นนำท่านชมความงามของ น้ำตกสโกกาฟอสส์ “Skogafoss” ซึ่งเป็นน้ำตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของไอซ์แลนด์ มีความสูงประมาณ 62 เมตร ซึ่งไหลมาจากแม่น้ำสโกก้า ตัวน้ำตกนั้นตั้งอยู่ห่างจากหมู่บ้านสโคการ์ ไปประมาณ 5 กิโลเมตร โดยตั้งอยู่ทางทิศใต้ของธารน้ำแข็งเอยาฟยาตลาเยอคุตล์ (Eyjafjallajokull glacier) ธารน้ำแข็งขนาดเล็กที่ปกคลุมภูเขาไฟสูง 1,666 เมตร ซึ่งเคยปะทุค่อนข้างบ่อย และได้ปะทุขึ้นอีกครั้งในปี ค.ศ. 2010 ซึ่งส่งผลให้น่านฟ้าทั่วยุโรปต้องปิดการใช้งานไปชั่วคราวในขณะนั้น ปัจจุบันภูเขาไฟแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาถ่ายรูปความสวยงามอยู่ไม่ขาด มุมถ่ายรูปยอดนิยมคือภาพของน้ำตก สโกกาฟอสส์ที่มีฉากหลังเป็นภูเขาไฟเอยาฟยาตลาเยอคุตล์ (Eyjajallajikull)
จากนั้นนำท่านเดินสู่ น้ำตกเซลยาลันฟอสส์ “Seljalandfoss” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งน้ำตกที่มีชื่อเสียงของประเทศไอซ์แลนด์ ชนิดที่ว่าแทบจะกลายเป็นสัญลักษณ์ของไอซ์แลนด์เลย เพราะที่นี่มีความสวยงาม สูงประมาณ 60 เมตร เมื่อสายน้ำจากด้านบนไหลลงมาปะทะกับผืนน้ำด้านล่าง ทำให้เกิดละอองน้ำบางๆ ฟุ้งกระจายไปทั่ว และนอกจากมองดูด้านหน้าของน้ำตกแล้ว ยังสามารถเดินลัดเลาะไปทางด้านหลังของม่านน้ำตกได้อีกด้วย ซึ่งเป็นเพียงน้ำตกไม่กี่แห่งในไอซ์แลนด์ที่สามารถเดินไปด้านหลังได้สามารถมองเห็นวิวน้ำตกได้ 360 องศา
ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางเข้าสู่ กรุงเรคยาวิค
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย
ที่พัก Grand Hotel, Reyjavik ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเที่ยวชมกรุงเรคยาวิค เมืองหลวงของประเทศไอซ์แลนด์ ชมและถ่ายรูปด้านหน้า โบสถ์ฮอลล์กริมสเคิร์กยา “Hallgrimskirkja” โบสถ์คริสต์นิกายลูเธอรัน แลนด์มาร์กสำคัญของกรุงเรคยาวิก ว่ากันว่าเราสามารถมองเห็นโบสถ์แห่งนี้ได้จากเกือบทุกที่ในตัวเมืองเรคยาวิค โบสถ์แห่งนี้ตั้งชื่อตามพระในศาสนาคริสต์ที่ชื่อฮาลล์กริมูร์ (Hallgrímur Pétursson) ที่เป็นทั้งนักกวีและนักประพันธ์ ผลงานที่มีชื่อและเป็นที่รู้จักกันอย่างดีของชาวไอซ์แลนด์ออกแบบโดยนายกุดโยน (Guðjón Samúelsson) ซึ่งกว่าจะได้สร้างจบแล้วเสร็จก็ใช้เวลาทั้งหมด 38 ปี โดยเริ่มในปี ค.ศ.1945 กระทั่งแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1986 บริเวณด้านหน้าของโบสถ์ยังมี “อนุเสาวรีย์ของเลฟร์ อีริกสัน” (Leifur Eiríksson) นักเดินทางคนสำคัญในประวัติศาสตร์โลกที่สหรัฐอเมริกาได้มอบให้แก่ไอซ์แลนด์เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 1 พันปี รัฐสภา “Althing” ของไอซ์แลนด์
จากนั้นแวะให้ท่านถ่ายรูปกับประติมากรรม “Sun Voyager” ที่ผู้สร้างตีความหมายว่าเป็นเรือแห่งความฝันโดย ตัวประติมากรรมจะเป็นลักษณะเหมือนเรือไวกิ้งหันหน้าออกสู่ท้องทะเลของไอซ์แลนด์
ชมและเก็บภาพด้านหน้าบริเวณ อาคารฮาร์ปาคอนเสิร์ตและคอนเฟอเรนซ์ฮอลล์ “Harpa Concert and Conference Hall “ ที่หรูหราตั้งอยู่ในเขตท่าเรือเก่าในเมืองเรคยาวิค
อิสระให้ท่านเดินเล่นผ่อนคลายชมบรรยากาศที่ ถนนเลยการ์แวร์กูร์ (Laugavegur) ถนนช็อปปิ้งหลักของกรุงเรคยาวิค และเชื่อมต่อถึงถนนช็อปปิ้งบานกัสไรตี เอยส์เตยสแลตี แลกจาร์กาตา และสโกลาโวแลคตีกูร์ ถนนทุกสายนี้สามารถเดินเท้าถึงกันได้ง่ายๆ จากใจกลางเมือง สำหรับท่านที่รักการช๊อปปิ้ง เราขอแนะนำร้านเสื้อผ้า แบรนด์ชั้นนำต่างๆ เช่น 66 นอร์ท ซินตามานิโซออน หรือไอซ์แวร์ ให้ท่านได้เดินชมบรรยากาศ และเลือกซื้อของฝากอิสระตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่อาคาร อาคารเพอร์แลน “Perlan” อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมือง คำว่าเพอร์แลนในภาษาไอซ์แลนด์จะตรงกับคำว่า The Pearl ที่แปลว่า "ไข่มุก" อาคารเพอร์แลน เป็นพิพิธภัณฑ์และโดมกระจกหมุนได้ สร้างขึ้นบนแท็งก์น้ำ 6 ถัง โดย 4 ถังยังคงใช้เก็บน้ำร้อนส่วนใหญ่ที่ใช้ในเมืองเรคยาวิก ตั้งอยู่บนยอดเขาเอิสจูฮลิด และเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญที่โดดเด่นที่สุดของเมืองเรคยาวิก เป็นสิ่งก่อสร้างที่เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเรคยาวิค
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร ภายในอาคารเพอร์แลนด์
ให้ท่านทานอาหารพร้อมเพลิดเพลินกับการชมบรรยากาศ เมืองเรคยาวิคแบบ 360 องศา ณ จุดชมวิวอาคารเพอร์แลน “Perlan”
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองกรินดาวิก สู่ บ่อน้ำแร่บลูลากูน “Blue Lagoon” หรือ ทะเลสาบน้ำแร่สีฟ้าสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพระดับโลกและโด่งดังที่สุดของประเทสไอซ์แลนด์ นักท่องเที่ยว 95% ต่างไม่พลาด กับการมาเยือนสถานที่แห่งนี้ ซึ่งบ่อน้ำแร่บลูลากูนแห่งนี้ เป็นบ่อน้ำแร่ที่เต็มไปด้วยแร่ธาตุมากมายและยังมีเกลือแร่ซึ่งจะช่วยให้ท่านผ่อนคลายและรักษาโรคที่เกี่ยวกับผิวหนัง อีกทั้งยังช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งอีกด้วย อิสระให้ท่านแช่น้ำแร่ธรรมชาติ สัมผัสกับความสบายตัวจากการลงแช่และอาบน้ำในบ่อน้ำร้อนบูลลากูน เพื่อการพักผ่อนตามอัธยาศัย มีบริการผ้าขนหนูให้ท่านละ 1 ผืน พร้อมเครื่องดื่มต้อนรับท่านละ 1 แก้ว ***กรุณาเตรียมชุดว่ายน้ำและหมวกคลุมผมไปด้วยติดตัวไปด้วย *** สำหรับการแช่น้ำแร่ในบลูลากูน)
จากนั้นนำท่านเดินทางกลับเข้าสู่ กรุงเรคยาวิค
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก Grand Hotel, Reyjavik ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
07.00 น. นำท่านเดินทางสู่ สนามบินเรคยาวิก เพื่อทำการเช็คอินของ สายการบินฟินแอร์ (AY)
10.00 น. ออกเดินทางสู่เมืองเฮลซิงกิ โดยสายการบินฟินแอร์ เที่ยวบินที่ AY992 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง, กระเป๋าจะทำการเช็คทรูจากสนามบินเรคยาวิก จนถึงสนามบินสุวรรณภูมิ)
15.30 น. เดินทางถึงสนามบินเฮลซิงกิ แวะเปลี่ยนเครื่อง
20.50 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายสายการบินฟินแอร์ เที่ยวบินที่ AY143 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
13.25 น. นำท่านเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
เงื่อนไขอื่นๆเพิ่มเติม
เมื่อท่านได้ชำระเงินมัดจำหรือทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นการชำระผ่านตัวแทนของบริษัทหรือชำระโดยตรงกับทางบริษัท จะถือว่าท่านรับทราบและยอบรับเงื่อนไขต่างๆ ของบริษัทฯที่ได้ระบุไว้โดยทั้งหมด
บริษัทขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงราคาในกรณี ที่ผู้เดินท่านไม่ถึงตามจำนวนที่กำหนดขั้นต่ำ หากคณะยังยืนประสงค์ที่จะเดินทาง ทางบริษัทของสงวนสิทธิปรับราคาทัวร์เพิ่มเติม หรือยินดีโดยหักเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตามจริงซึ่งในกรณีนี้ทางบริษัทฯ ยินดีคืนเงิน ภายใน 14 วันทำการ
กรณีที่ลูกค้ายกเลิกการเดินทาง และมีการคืนมัดจำตามเงื่อนไข ทางบริษัทจะดำเนินการคืนเงินภายใน 14 วัน นับจากวันที่ได้รับเรื่องเป็นลายลักษณ์อักษร
กรณีท่านสละสิทธิ์การใช้บริการใด ๆ เนื่องจากรายการทัวร์นี้เป็นแบบเหมาจ่ายและชำระเงินล่วงหน้าเบ็ดเสร็จกับบริษัทตัวแทนในต่างประเทศ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินในทุกกรณี ยกเว้นท่านได้ทำการตกลง หรือ แจ้งให้ทราบก่อนการเดินทาง
กรณีสถานที่ท่องเที่ยวใด ๆ ที่ระบุในโปรแกรมปิดทำการ เนื่องจากโปรแกรมทัวร์เป็นการเสนอขายล่วงหน้า บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงการพาเข้าชม โดยจะจัดหาสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ เพื่อทดแทนเป็นลำดับแรก หรือคืนค่าเข้าชมแก่คณะผู้เดินทางแทน
บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการรายละเอียดท่องเที่ยวประการ กรณีที่เกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย อาทิ การล่าช้าของสายการบิน การนัดหยุดงาน การประท้วง ภัยธรรมชาติ การก่อจลาจล อุบัติเหตุ ปัญหาการจราจร ฯลฯ ทั้งนี้จะคำนึงและรักษาผลประโยชน์ของผู้เดินทางไว้ให้ได้มากที่สุด
กรณีท่านถูกปฎิเสธเข้า / ออก เมือง จากด่านตรวจคนเข้า/ออกเมือง บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง และขอปฏิเสธความรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพิ่มเติม
ในกรณีที่ท่านจะใช้หนังสือเดินทางราชการ (เล่มสีน้ำเงิน) เดินทางกับคณะ บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบ หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าหรือออกนอกประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะโดยปกตินักท่องเที่ยวใช้หนังสือเดินทางบุคคลธรรมดา เล่มสีเลือดหมู
ตั๋วเครื่องบิน
a. ต้องเดินทางไป-กลับ พร้อมคณะเท่านั้น ไม่สามารถเลื่อนวันเดินทางไปหรือกลับได้และไม่สามารถทำการ Refund ตั๋วได้
b. ท่านที่จะออกตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ โปรดแจ้งฝ่ายขายก่อนเพื่อขอคำยืนยันว่าทัวร์นั้นๆ ยืนยันการเดินทางแน่นอน หากท่านออกตั๋วภายในประเทศโดยไม่ได้รับการยืนยันจากพนักงาน แล้วทัวร์นั้นยกเลิก บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์
การขอที่นั่ง ตั๋วเครื่องบินที่ใช้แบบกรุ๊ปไม่สามารถเลือกที่นั่งล่วงหน้าได้ ท่านจะได้รับที่นั่งแบบสุ่มโดยสายการบินเท่านั้น ทางบริษัทไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายได้ กรณีที่ท่านเดินต้องการที่นั่งติดกันแนะนำให้เข้าเช็คอินพร้อมกันและร้องขอเจ้าหน้าที่ที่เคาร์เตอร์เช็คอิน สำหรับที่นั่ง Long-leg หรือที่นั่งบริเวณทางออกฉุกเฉิน บางสายการบินสามารถซื้อเพิ่มได้ ทั้งนี้ผู้ที่จะนั่งต้องเป็นผู้โดยสารที่มีคุณสมบัติตามที่สายการบินกำหนด เช่น ต้องสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ ไม่มีปัญหาด้านสุขภาพ สามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้อย่างรวดเร็วในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน และ อำนาจในการให้ที่นั่งขึ้นอยู่กับทางเจ้าหน้าที่สายการบินตอนเวลาที่เช็คอินเท่านั้น
โรงแรมที่พัก ส่วนใหญ่มีเครื่องปรับอากาศ และห้องพัก 3 ท่าน (Tripple room) อาจจะมีการจัดเป็นแบบ 1 เตียงใหญ่ และ Sofa bed หรือ อาจไม่สามารถจัดห้องที่พักแบบ 3 เตียงได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับการออกแบบของแต่ละโรงแรม และการขอห้องพักติดกันอาจจะทำให้ท่านไม่ได้เนื่องจากห้องพักเป็นแบบหมุนเวียนขึ้นอยู่กับห้องที่ว่าง ณ เวลาเช็คอินเท่านั้น
บริษัทฯ ไม่มีนโยบายในการจัดคู่นอนให้แก่ลูกค้าที่ไม่รู้จักกัน กรณีที่ท่านเดินทาง 1 ท่านจะต้องจ่ายค่าพักเดี่ยวเพิ่มตามราคาที่ระบุไว้ในรายการทัวร์เท่านั้น
กรณีเดินทางโดยลูกค้าจัดการตั๋วเครื่องบินเอง (Land Only) เนื่องจากเป็นราคาโปรโมชั่น ทางบริษัทขอสงวนสิทธิในการรับ หรือไม่รับลูกค้าที่ต้องการจองตั๋วเครื่องบินเองและมาเที่ยวร่วมกับคณะ (Join Tour)
กรณีทรัพย์สินเกิดการสูญหายระหว่างการท่องเที่ยว (ระหว่างทัวร์ ไม่ใช่ระหว่างบิน) โดยปกติประกันภัยการเดินทางที่บริษัททัวร์ได้จัดทำให้ลูกค้าจะไม่ครอบคลุมค่าชดเชยในกรณีกระเป๋าใบใหญ่สูญหาย ทุกท่านต้องดูแลและระวังทรัพย์สินส่วนตัวของท่าน
59/298 ซอย พุทธมณฑลสาย 2 ซอย 24 แขวง ศาลาธรรมสพน์ เขต ทวีวัฒนา กรุงเทพฯ 10170